Mavic 2 Pro with Smart Controller

73,000.00฿

Mavic 2 Pro โดรนถ่ายภาพขนาดเล็ก พับขาได้ พกพาสะดวก ที่มาพร้อมกล้องคุณภาพสูงโดย Hasselblad ผู้นำด้านกล้องระดับมืออาชีพ เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นคุณภาพรูปภาพสูง

 

คุณสมบัติเด่น

1. กล้องคุณภาพสูง Hasselblad L1D-20c Camera Iconic Image Quality พร้อมระบบกันสั่น 3 แกน
2. ถ่ายภาพนิ่งความละเอียด 20 MP พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ 1” CMOS Sensor
3. สามารถปรับรูรับแสงได้ f/2.8 – f/11
4. รองรับการถ่ายภาพแบบ 10-bit Dlog-M colour profile ที่มี dynamic range สูง
5. รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 4K 10-bit HDR Video ให้ภาพที่มี contrast และ highlights สูง
6. บินได้ไกลสูงสูง 8 กม. พร้อมระบบรับส่งภาพวิดีโอขณะบิน OcuSync 2.0 ความละเอียด 1080p
7. บินได้นานสูงถึง 31 นาที
8. ระบบกันชนรอบทิศทาง Omnidirectional Obstacle Sensing
9. เทคนิคการถ่ายภาพแบบ Hyperlapse
10. ระบบบินตามวัตถุอัจฉริยะ ActiveTrack 2.0
11. สามารถใช้งานร่วมกับ DJI Goggles
12. ขนาดเล็กพกพาสะดวก พับขาแล้วมีขนาดเพียง 91 mm x 214 mm x 84 mm

 หากท่านใดสนใจ สามารถติดต่อได้ที่ Line ID : @droneacademy 

Category:

Description

 

Mavic 2 Pro

 

DJI Mavic 2 Pro โดรนขนาดกะทัดรัด แต่อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติสุดเทพเทียบเท่าพอๆ กับรุ่นใหญ่อย่าง Phantom 4 Pro ชูจุดเด่นด้วยเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว ให้ภาพชัดแจ๋ว ซึ่งวันนี้ DJI Phantom Thailand มีข้อมูลรีวิวพร้อมเจาะลึกทุกฟีเจอร์เด็ดมาฝาก มาดูพร้อมๆ กันเลยครับ!

 

Unbox ภายในกล่องมีอะไรบ้าง?

ภายในกล่องจะมีรายการดังต่อไปนี้

-ตัวเครื่อง Mavic 2 Pro x 1

-รีโมตคอนโทรล x 1

-แบตเตอรี่ x 1

-ใบพัด x 6

-ตัวชาร์จ x 1

-สาย USB-C x 1

-สายเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนระบบ Android หรือ iOS เข้ากับรีโมตฯ

-คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

 

##ไฮไลท์เด็ด##

 

กล้องสุดเทพจาก Hasselblad พร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว

 

DJI ได้ร่วมมือกับ Hasselblad ผู้ผลิตกล้องชื่อดังจากสวีเดน ในการพัฒนาโดรนสุดเทพอย่าง DJI Mavic 2 Pro ที่มาพร้อมนวัตกรรมกล้องสุดเจ๋งจาก Hasselblad โดดเด่นด้วยเซ็นเซอร์ภาพขนาดใหญ่ 1 นิ้ว ซึ่งบันทึกภาพนิ่งได้ชัดสุดถึงระดับ 20MP พร้อมมีเทคโนโลยี HNCS (Hasselblad Natural Colour Solution) ที่ประมวลผลภาพได้สีสวยชัด สมจริงทุกเฉด แถมยังมี 10-bit Dlog-M Color Profile ที่บันทึกสีได้กว่าพันล้านเฉด ทั้งนี้ ยังสามารถปรับรูรับแสงได้ ตั้งแต่ f/2.8 – f/11 และมีระยะ ISO 100-12,800 จึงไม่ต้องกลัวแม้ต้องบันทึกภาพในสภาพแสงน้อยหรือแสงมาก

 

มาดูวิดีโอเปรียบเทียบคุณภาพกล้องระหว่าง Mavic 2 Pro, Mavic Pro และ Mavic Air ได้ที่ด้านล่างนี้ครับ

 

 

ขนาดกะทัดรัด พกพาไปได้ทุกที่ บินอึด

 

Mavic 2 Pro

 

ถ้าดูจากภาพด้านบนนี้ จะเห็นได้ว่า DJI Mavic 2 Pro มีขนาดกะทัดรัดพอๆ กับโดรนรุ่นก่อนอย่าง DJI Mavic Pro เลยล่ะครับ แถมยังมีน้ำหนักใกล้เคียงกันอีกด้วย โดย DJI Mavic Pro จะมีน้ำหนัก 734g ส่วน DJI Mavic 2 Pro จะมีน้ำหนัก 907g แต่โดรนรุ่นใหม่นี้จะได้เปรียบตรงที่การใช้งานแบตเตอรี่จะยาวนานกว่า ทำให้บินได้นานกว่าเดิมถึง 31 นาทีครับ

 

อัดแน่นฟีเจอร์ใหม่ๆ เพียบ!! (ระบบตรวจจับรอบทิศทาง/ OcuSync 2.0/ ActiveTrack 2.0)

             ระบบตรวจจับรอบทิศทาง

DJI Mavic 2 Pro อัดแน่นด้วยเซ็นเซอร์ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัย โดยมีระบบป้องกันการชนและตรวจจับแบบรอบทิศทาง* นอกจากนี้ ยังเพิ่มเซ็นเซอร์อินฟราเรดด้านบนและด้านล่าง ช่วยให้บินในที่แคบได้อย่างปลอดภัย เวลาบินจึงสบายใจได้มากขึ้นครับ

 

*เซ็นเซอร์ด้านซ้าย-ขวา ใช้ได้เฉพาะเมื่อบินโหมด ActiveTrack และ Tripod เท่านั้น

 

Mavic 2 Pro  Mavic 2 Pro

 

            

             OcuSync 2.0

DJI Mavic 2 Pro ได้รับการพัฒนาสมรรถนะการบินให้เจ๋งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสารข้อมูลเป็นระบบ OcuSync 2.0 ซึ่งสามารถบังคับโดรนได้ในระยะไกลสุดถึง 8 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีสวิตซ์โหมด T/P/S ที่ด้านข้าง เพื่อให้เปลี่ยนโหมดการบินได้อย่างรวดเร็ว

 

Mavic 2 Pro  Mavic 2 Pro

 

             ActiveTrack 2.0

DJI Mavic 2 Pro ยังมีฟีเจอร์ ActiveTrack 2.0 ซึ่งถูกอัปเกรดจากโดรนรุ่นก่อนๆ ให้ทำงานได้ยอดเยี่ยมขึ้น สามารถจับภาพการเคลื่อนไหวของวัตถุได้แบบ 3 มิติ แล้วบินติดตามได้อย่างมีความแม่นยำสูงมาก

 

Mavic 2 Pro

 

โหมดการบินอัจฉริยะ (Hyperlapse / POI)

 

             Hyperlapse

DJI Mavic 2 Pro มีโหมดการบินอัจฉริยะอยู่ 2 โหมดด้วยกัน โดยโหมดแรก คือ Hyperlapse ทำให้คุณถ่ายวิดีโอแบบ Timelapse ในขณะบินเคลื่อนที่ไปพร้อมๆ กันได้ครับ โดยคำสั่งนี้จะช่วยตั้งแต่การวางตำแหน่งและรูปแบบการบิน แล้วประมวลผลภาพถ่ายระหว่างบินตามที่ตั้งโปรแกรมไว้ เอามาสร้างเป็นวิดีโอให้แบบอัตโนมัติ ซึ่งคุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ง่ายๆ บนแอปฯ DJI GO 4

 

ลองดูวิดีโอสาธิตการใช้งานโหมด Hyperlapse ได้ที่ด้านล่างนี้ครับ

 

 

 

             Point of Interest (POI)

ส่วนโหมดที่ 2 คือ Point of Interest (POI) ซึ่งในโหมดนี้คุณจะสามารถกำหนดจุดที่ต้องการให้โดรนจะบินวนเพื่อถ่ายวิดีโอรอบวัตถุเป้าหมายได้แบบ 360 องศาครับ โดยสำหรับโหมด Point of Interest (POI) ของ DJI Mavic 2 Pro มีการอัปเดตอินเทอร์เฟซใหม่จากเวอร์ชั่นที่เคยมีอยู่ในโดรนรุ่นก่อนๆ ให้ง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น โดยคุณสามารถเปลี่ยนรัศมี ความสูง ความเร็ว และทิศทางได้อย่างรวดเร็วในแอป DJI GO 4

 

ลองดูวิดีโอสาธิตการใช้งานโหมด POI ได้ที่ด้านล่างนี้ครับ

 

 

 

DJI Mavic 2 Pro เหมาะสำหรับคุณหรือไม่??

 

หากคุณเป็นคนที่หลงรักการถ่ายภาพมุมสูงหรือเป็นนักบินโดรน ที่กำลังมองหาโดรนติดกล้องคุณภาพสูงสักลำ ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย ใส่กระเป๋าไปได้ทุกที่ ขึ้นบินได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย DJI Mavic 2 Pro ถือเป็นโดรนที่ตอบโจทย์ได้ดีเลยล่ะครับ แต่ถ้ายังลังเลอยู่ หรืออาจกำลังชั่งใจระหว่างรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ ลองดูวิดีโอ Unbox ของจริง พร้อมเปรียบเทียบ DJI Mavic 2 Pro กับ Mavic Pro รุ่นเก่า ด้านล่างนี้ก่อนก็ได้ น่าจะช่วยคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ

 

Go to Top