Description
DJI Mavic 2 Pro โดรนขนาดกะทัดรัด แต่อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติสุดเทพเทียบเท่าพอๆ กับรุ่นใหญ่อย่าง Phantom 4 Pro ชูจุดเด่นด้วยเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว ให้ภาพชัดแจ๋ว ซึ่งวันนี้ DJI Phantom Thailand มีข้อมูลรีวิวพร้อมเจาะลึกทุกฟีเจอร์เด็ดมาฝาก มาดูพร้อมๆ กันเลยครับ!
Unbox ภายในกล่องมีอะไรบ้าง?
ภายในกล่องจะมีรายการดังต่อไปนี้
-ตัวเครื่อง Mavic 2 Pro x 1
-รีโมตคอนโทรล x 1
-แบตเตอรี่ x 1
-ใบพัด x 6
-ตัวชาร์จ x 1
-สาย USB-C x 1
-สายเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนระบบ Android หรือ iOS เข้ากับรีโมตฯ
-คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
##ไฮไลท์เด็ด##
กล้องสุดเทพจาก Hasselblad พร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว
DJI ได้ร่วมมือกับ Hasselblad ผู้ผลิตกล้องชื่อดังจากสวีเดน ในการพัฒนาโดรนสุดเทพอย่าง DJI Mavic 2 Pro ที่มาพร้อมนวัตกรรมกล้องสุดเจ๋งจาก Hasselblad โดดเด่นด้วยเซ็นเซอร์ภาพขนาดใหญ่ 1 นิ้ว ซึ่งบันทึกภาพนิ่งได้ชัดสุดถึงระดับ 20MP พร้อมมีเทคโนโลยี HNCS (Hasselblad Natural Colour Solution) ที่ประมวลผลภาพได้สีสวยชัด สมจริงทุกเฉด แถมยังมี 10-bit Dlog-M Color Profile ที่บันทึกสีได้กว่าพันล้านเฉด ทั้งนี้ ยังสามารถปรับรูรับแสงได้ ตั้งแต่ f/2.8 – f/11 และมีระยะ ISO 100-12,800 จึงไม่ต้องกลัวแม้ต้องบันทึกภาพในสภาพแสงน้อยหรือแสงมาก
มาดูวิดีโอเปรียบเทียบคุณภาพกล้องระหว่าง Mavic 2 Pro, Mavic Pro และ Mavic Air ได้ที่ด้านล่างนี้ครับ
ขนาดกะทัดรัด พกพาไปได้ทุกที่ บินอึด
ถ้าดูจากภาพด้านบนนี้ จะเห็นได้ว่า DJI Mavic 2 Pro มีขนาดกะทัดรัดพอๆ กับโดรนรุ่นก่อนอย่าง DJI Mavic Pro เลยล่ะครับ แถมยังมีน้ำหนักใกล้เคียงกันอีกด้วย โดย DJI Mavic Pro จะมีน้ำหนัก 734g ส่วน DJI Mavic 2 Pro จะมีน้ำหนัก 907g แต่โดรนรุ่นใหม่นี้จะได้เปรียบตรงที่การใช้งานแบตเตอรี่จะยาวนานกว่า ทำให้บินได้นานกว่าเดิมถึง 31 นาทีครับ
อัดแน่นฟีเจอร์ใหม่ๆ เพียบ !! (ระบบตรวจจับรอบทิศทาง/ OcuSync 2.0/ ActiveTrack 2.0 )
ระบบตรวจจับรอบทิศทาง
DJI Mavic 2 Pro อัดแน่นด้วยเซ็นเซอร์ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัย โดยมีระบบป้องกันการชนและตรวจจับแบบรอบทิศทาง* นอกจากนี้ ยังเพิ่มเซ็นเซอร์อินฟราเรดด้านบนและด้านล่าง ช่วยให้บินในที่แคบได้อย่างปลอดภัย เวลาบินจึงสบายใจได้มากขึ้นครับ
*เซ็นเซอร์ด้านซ้าย-ขวา ใช้ได้เฉพาะเมื่อบินโหมด ActiveTrack และ Tripod เท่านั้น
OcuSync 2.0
DJI Mavic 2 Pro ได้รับการพัฒนาสมรรถนะการบินให้เจ๋งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสารข้อมูลเป็นระบบ OcuSync 2.0 ซึ่งสามารถบังคับโดรนได้ในระยะไกลสุดถึง 8 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีสวิตซ์โหมด T/P/S ที่ด้านข้าง เพื่อให้เปลี่ยนโหมดการบินได้อย่างรวดเร็ว
ActiveTrack 2.0
DJI Mavic 2 Pro ยังมีฟีเจอร์ ActiveTrack 2.0 ซึ่งถูกอัปเกรดจากโดรนรุ่นก่อนๆ ให้ทำงานได้ยอดเยี่ยมขึ้น สามารถจับภาพการเคลื่อนไหวของวัตถุได้แบบ 3 มิติ แล้วบินติดตามได้อย่างมีความแม่นยำสูงมาก
โหมดการบินอัจฉริยะ ( Hyperlapse / POI)
Hyperlapse
DJI Mavic 2 Pro มีโหมดการบินอัจฉริยะอยู่ 2 โหมดด้วยกัน โดยโหมดแรก คือ Hyperlapse ทำให้คุณถ่ายวิดีโอแบบ Timelapse ในขณะบินเคลื่อนที่ไปพร้อมๆ กันได้ครับ โดยคำสั่งนี้จะช่วยตั้งแต่การวางตำแหน่งและรูปแบบการบิน แล้วประมวลผลภาพถ่ายระหว่างบินตามที่ตั้งโปรแกรมไว้ เอามาสร้างเป็นวิดีโอให้แบบอัตโนมัติ ซึ่งคุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ง่ายๆ บนแอปฯ DJI GO 4
ลองดูวิดีโอสาธิตการใช้งานโหมด Hyperlapse ได้ที่ด้านล่างนี้ครับ
Point of Interest (POI)
ส่วนโหมดที่ 2 คือ Point of Interest (POI) ซึ่งในโหมดนี้คุณจะสามารถกำหนดจุดที่ต้องการให้โดรนจะบินวนเพื่อถ่ายวิดีโอรอบวัตถุเป้าหมายได้แบบ 360 องศาครับ โดยสำหรับโหมด Point of Interest (POI) ของ DJI Mavic 2 Pro มีการอัปเดตอินเทอร์เฟซใหม่จากเวอร์ชั่นที่เคยมีอยู่ในโดรนรุ่นก่อนๆ ให้ง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น โดยคุณสามารถเปลี่ยนรัศมี ความสูง ความเร็ว และทิศทางได้อย่างรวดเร็วในแอป DJI GO 4
ลองดูวิดีโอสาธิตการใช้งานโหมด POI ได้ที่ด้านล่างนี้ครับ
DJI Mavic 2 Pro เหมาะสำหรับคุณหรือไม่??
หากคุณเป็นคนที่หลงรักการถ่ายภาพมุมสูงหรือเป็นนักบินโดรน ที่กำลังมองหาโดรนติดกล้องคุณภาพสูงสักลำ ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย ใส่กระเป๋าไปได้ทุกที่ ขึ้นบินได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย DJI Mavic 2 Pro ถือเป็นโดรนที่ตอบโจทย์ได้ดีเลยล่ะครับ แต่ถ้ายังลังเลอยู่ หรืออาจกำลังชั่งใจระหว่างรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ ลองดูวิดีโอ Unbox ของจริง พร้อมเปรียบเทียบ DJI Mavic 2 Pro กับ Mavic Pro รุ่นเก่า ด้านล่างนี้ก่อนก็ได้ น่าจะช่วยคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ