ในปัจจุบัน การเล่นเกมและการทำงานกราฟิกต้องการประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ที่สูงขึ้นมากกว่าเดิม แต่หลายคนอาจพบว่าคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปของตนไม่สามารถรองรับการใช้งานหนักได้ ด้วยเหตุนี้ eGPU หรือ External GPU จึงเป็นคำตอบที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการเพิ่มพลังให้กับเครื่องในงบประมาณที่จำกัด

eGPU คืออะไร?

eGPU หรือ External GPU คืออุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลกราฟิกให้กับคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อป โดยการเชื่อมต่อ GPU ที่อยู่นอกตัวเครื่องผ่านพอร์ตอย่าง Thunderbolt 3 หรือ USB-C ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการรันเกมหรือโปรแกรมกราฟิกหนักๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของ eGPU

  1. เพิ่มพลังให้กับแล็ปท็อปหรือพีซี: แล็ปท็อปที่ไม่สามารถอัพเกรดการ์ดจอภายในได้ สามารถใช้ eGPU เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้
  2. รองรับการใช้งานที่หลากหลาย: ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกสูง หรือการทำงานด้านกราฟิก 3D, ตัดต่อวิดีโอ, และการเรนเดอร์
  3. ยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์เดิม: ไม่ต้องเปลี่ยนคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ เพียงเพิ่ม eGPU ก็สามารถใช้งานได้ต่อ
  4. พกพาสะดวก: eGPU สามารถถอดเก็บและพกพาได้ง่าย ทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่น

eGPU คืออะไร?

สำหรับผู้ที่มองหา eGPU ราคาประหยัด นี่คือรุ่นที่ได้รับความนิยมและคุ้มค่าในปี 2024:

  1. Razer Core X
    • รองรับการ์ดจอหลากหลายรุ่น
    • ราคาประมาณ 10,000 – 12,000 บาท
    • การเชื่อมต่อผ่าน Thunderbolt 3
  2. Sonnet eGFX Breakaway Box 350
    • ราคาเริ่มต้นที่ 8,000 บาท
    • รองรับ GPU ขนาดใหญ่และมีการระบายความร้อนที่ดี
  3. AORUS Gaming Box
    • มี GPU ติดตั้งมาในตัว เช่น NVIDIA GeForce RTX 3060
    • ราคาประมาณ 15,000 – 20,000 บาท (รวมการ์ดจอ)

วิธีเลือก eGPU ให้เหมาะสมกับคุณ

  1. ตรวจสอบความเข้ากันได้: ตรวจสอบว่าแล็ปท็อปหรือพีซีของคุณรองรับพอร์ต Thunderbolt 3 หรือ USB-C
  2. เลือก GPU ที่เหมาะกับการใช้งาน: หากคุณเป็นสายเกม ควรเลือก GPU รุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ถ้าคุณทำงานกราฟิก ควรเน้นการ์ดจอที่มี VRAM มากพอ
  3. งบประมาณ: กำหนดงบประมาณให้ชัดเจนและเลือก eGPU ที่คุ้มค่าที่สุด
  4. พิจารณาการอัพเกรดในอนาคต: หากคุณต้องการอัพเกรดการ์ดจอในอนาคต ให้เลือก eGPU ที่รองรับการเปลี่ยน GPU ได้ง่าย

วิธีตั้งค่าและใช้งาน eGPU

  1. เชื่อมต่อ eGPU กับแล็ปท็อปหรือพีซีผ่านพอร์ตที่รองรับ
  2. ติดตั้งไดรเวอร์ GPU และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง
  3. รีสตาร์ทเครื่องและตรวจสอบว่า eGPU ทำงานได้อย่างถูกต้อง
  4. ปรับการตั้งค่าในเกมหรือโปรแกรมกราฟิกให้ใช้ eGPU เป็นตัวประมวลผลหลัก

เปรียบเทียบการใช้ eGPU กับการ์ดจอภายใน

การตัดสินใจระหว่างการใช้ eGPU กับการ์ดจอภายในนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและข้อจำกัดต่างๆ:

  • ข้อดีของ eGPU: เพิ่มพลังให้กับแล็ปท็อปโดยไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งหมด
  • ข้อดีของการ์ดจอภายใน: มีประสิทธิภาพสูงสุดและไม่มีความล่าช้าจากการเชื่อมต่อภายนอก
  • ข้อเสียของ eGPU: อาจมีความล่าช้าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการ์ดจอภายใน และต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมสำหรับอุปกรณ์เสริม

สรุป

eGPU เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแล็ปท็อปหรือพีซีโดยไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งหมด นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังมอบความยืดหยุ่นในการใช้งานอีกด้วย ด้วยตัวเลือก eGPU ราคาประหยัดในตลาด คุณสามารถเพิ่มพลังให้กับเครื่องของคุณได้อย่างคุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการในการเล่นเกมและงานกราฟิกอย่างลงตัว


หากสนใจสินค้าสอบถามได้ที่

อ้างอิงจาก: https://mtxr.co/egpu/