1. คุณภาพของกล้อง
Mavic 3T เป็นผู้นำด้วยกล้อง Hasselblad และเซ็นเซอร์ 20 ล้านพิกเซล กล้อง Hasselblad รับประกันคุณภาพของภาพ ความแม่นยำของสี และรายละเอียดที่ยอดเยี่ยม ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับช่างภาพและผู้สร้างภาพยนตร์มืออาชีพ ในทางกลับกัน กล้อง 24 ล้านพิกเซลของ Mavic 3 ยังคงให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง แต่อาจไม่ตรงกับระดับรายละเอียดและความแม่นยำของสีที่นำเสนอใน Mavic 3T
2. Flight Time
DJI Mavic 3T ใช้เวลาบินสูงสุด 45 นาที ซึ่งนานกว่าเวลาบิน 31 นาทีของ Mavic 3 อย่างเห็นได้ชัด เวลาบินที่ยาวนานขึ้นนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการจับภาพวิดีโอได้มากขึ้นหรือครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยๆ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าเวลาบินอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพอากาศ และโหมดการบิน
3. การตรวจจับอุปสรรคและการหลีกเลี่ยงการชน
ทั้ง DJI Mavic 3T และ DJI Mavic 3 มาพร้อมกับเทคโนโลยีการตรวจจับสิ่งกีดขวางและการหลีกเลี่ยงการชนขั้นสูง อย่างไรก็ตาม Mavic 3T ก้าวไปอีกขั้นด้วยระบบช่วยเหลือนักบินขั้นสูง (APAS) 5.0 ระบบนี้ช่วยให้โดรนนำทางในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง และรับประกันประสบการณ์การบินที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ในขณะที่ Mavic 3 ยังมีการตรวจจับสิ่งกีดขวางและการหลีกเลี่ยงการชนกัน APAS 5.0 บน Mavic 3T ก็มอบความสามารถที่เพิ่มขึ้นสำหรับการนำทางสถานการณ์ที่ท้าทาย
ทั้ง DJI Mavic 3T และ DJI Mavic 3 เป็นโดรนที่โดดเด่นซึ่งนำเสนอคุณสมบัติและความสามารถขั้นสูงสำหรับการถ่ายภาพทางอากาศและวิดีโอ Mavic 3T โดดเด่นด้วยกล้อง Hasselblad คุณภาพของภาพที่เหนือกว่า และระยะเวลาการบินที่ยาวนานขึ้น ในทางกลับกัน Mavic 3 มอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม กล้องทรงพลัง และระบบการบินขั้นสูง หากคุณภาพของภาพและเวลาการบินที่ยาวนานขึ้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณ Mavic 3T อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม หากคุณให้ความสำคัญกับความคล่องตัว ประสิทธิภาพ และราคาที่ต่ำกว่าเล็กน้อย Mavic 3 ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ท้ายที่สุดแล้ว โดรนทั้งสองลำมอบประสบการณ์การบินที่ยอดเยี่ยมและสามารถบันทึกภาพทางอากาศที่น่าทึ่งได้