1. คุณภาพและความสามารถของกล้อง

ทั้ง DJI Mavic 3E และ Autel Evo II Pro มีประสิทธิภาพกล้องที่น่าประทับใจ Mavic 3E มีเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 1 นิ้วที่สามารถบันทึกภาพนิ่ง 20 ล้านพิกเซลและวิดีโอ 5.4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที นอกจากนี้ยังมีโปรไฟล์สี Dlog-M 10 บิตเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการประมวลผลภายหลัง ในทางกลับกัน Autel Evo II Pro มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่กว่า 1 นิ้วและสามารถถ่ายภาพนิ่งความละเอียด 20 ล้านพิกเซลอันน่าทึ่งและวิดีโอ 6K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที นอกจากนี้ยังมีความลึกของสี 10 บิตและช่วงไดนามิกกว้างสำหรับฟุตเทจระดับมืออาชีพ

2. ประสิทธิภาพการบินและขอบเขต

เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพการบิน โดรนทั้งสองลำมีความเป็นเลิศ DJI Mavic 3E เสนอเวลาบินสูงสุดสูงสุด 46 นาที ด้วยความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ สามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุด 45 ไมล์ต่อชั่วโมง และมีระยะการส่งข้อมูลสูงสุดถึง 7.5 ไมล์ ในทางกลับกัน Autel Evo II Pro ให้เวลาบินสั้นลงเล็กน้อยสูงสุด 40 นาที อย่างไรก็ตาม สามารถชดเชยด้วยระยะการส่งข้อมูลสูงสุดที่น่าประทับใจสูงสุดถึง 9 ไมล์ ทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในเที่ยวบินระยะไกล

3. โหมดและคุณสมบัติการบินอัจฉริยะ

ทั้ง DJI Mavic 3E และ Autel Evo II Pro มาพร้อมกับโหมดการบินอัจฉริยะและคุณสมบัติต่างๆ ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การบินโดยรวม Mavic 3E นำเสนอโหมดต่างๆ เช่น ActiveTrack 4.0 ซึ่งช่วยให้โดรนติดตามวัตถุได้โดยอัตโนมัติ และ Hyperlapse ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างวิดีโอไทม์แลปส์ที่น่าทึ่งได้ ในทางกลับกัน Autel Evo II Pro มีคุณสมบัติเช่น Dynamic Track 2.0 ซึ่งติดตามวัตถุด้วยความแม่นยำ และโหมด Waypoint ซึ่งช่วยให้คุณวางแผนเส้นทางการบินล่วงหน้าได้

4. คุณสมบัติการหลีกเลี่ยงอุปสรรคและความปลอดภัย

ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญยิ่งเมื่อบินโดรน และทั้ง DJI Mavic 3E และ Autel Evo II Pro ก็มีระบบหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางที่แข็งแกร่ง Mavic 3E มีระบบตรวจจับสิ่งกีดขวางขั้นสูง 8 ทิศทางที่ใช้เซ็นเซอร์ในการตรวจจับและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางที่ขวางเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือนักบินขั้นสูง (APAS) ที่ทำให้โดรนสามารถนำทางไปรอบๆ สิ่งกีดขวางได้โดยอัตโนมัติ ในทางกลับกัน Autel Evo II Pro มีระบบหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางรอบทิศทางด้วยเซ็นเซอร์ 12 ตัว เพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นระหว่างการบิน

5. การพกพาและใช้งานง่าย

ความสะดวกในการพกพามักเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกโดรน และ DJI Mavic 3E และ Autel Evo II Pro ต่างก็สร้างสมดุลระหว่างกำลังและการพกพา Mavic 3E มีดีไซน์แบบพับได้ ทำให้พกพาสะดวกและพกพาใส่กระเป๋าเป้สะพายหลังได้ง่าย Autel Evo II Pro แม้จะไม่ได้มีขนาดกะทัดรัดเท่ากับ Mavic 3E แต่ยังคงมีรูปแบบที่ค่อนข้างพกพาได้ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย

6. ราคาและความคุ้มค่า

การกำหนดราคาถือเป็นการพิจารณาที่สำคัญสำหรับการซื้อใดๆ และ DJI Mavic 3E และ Autel Evo II Pro มีราคาที่แตกต่างกัน Mavic 3E อยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่า ซึ่งสะท้อนถึงเทคโนโลยีและความสามารถขั้นสูง ในทางกลับกัน Autel Evo II Pro นำเสนอคุณสมบัติที่คล้ายกันในราคาที่แข่งขันได้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาความคุ้มค่าเงิน